วันศุกร์ที่ 19 ธันวาคม พ.ศ. 2557

 LIVERPOOL FC

15 แดเนียล สเตอร์ริดจ์

ชื่อ แดเนียล สเตอร์ริดจ์

เบอร์ในทีม  15

ตำแหน่ง กองหน้า

ความสูง 183 เซนติเมตร 

วันเดือนปีเกิด 1 กันยายน 1989

ประเทศ อังกฤษ   

 

ข้อมูลส่วนตัว

แดเนียล สเตอร์ริดจ์เข้ามาเสริมทัพในแดนหน้าให้กับทีมลิเวอร์พูล โดยเขาย้ายจากเชลซีมาอยู่แอนฟิลด์ในวันที่ 2 มกราคม 2013
ดาวยิงรายนี้เกิดที่เมืองเบอร์มิงแฮมในวันที่ 1 กันยายน 1989 และเริ่มเล่นให้กับทีมฟุตบอลเยาวชนให้กับแอสตัน วิลลา ทีมบ้านเกิดก่อนจะย้ายมาร่วมทีมโคเวนทรี และแมนเชสเตอร์ ซิตี้ในปี 2003
เขาได้ลงเล่นในนัดปะทะลิเวอร์พูลครั้งแรกเมื่อปี 2006 ในรอบชิงถ้วย เอฟเอ ยูธ คัพ ซึ่งตอนนั้นสเตอร์ริดจ์เป็นผู้เล่นที่อายุน้อยที่สุดในทีมแมนเชสเตอร์ ซิตี้ และทำประตูได้ถึง 4 ประตู เพื่อปูทางสู่รอบชิง แต่ทีมลิเวอร์พูลชุดเยาวชนก็พิสูจน์ให้เห็นว่าแข็งแกร่งกว่าด้วยการเอาชนะไป ในนัดที่สองด้วยสกอร์ 3-2
ฟอร์มการเล่นที่น่าประทับใจของสเตอร์ริดจ์ในระดับเยาวชน ทำให้เขาได้เซ็นสัญญาฟุตบอลอาชีพเป็นครั้งแรก ในช่วงเริ่มในฤดูกาล 2006-2007 โดยนักเตะกองหน้าจึงได้เริ่มเทรนกับทีมแมนเชสเตอร์ ซิตี้เป็นทีมแรก
แม้ว่าเขาจะได้ลงประเดิมสนามในฐานะตัวสำรองในนัดพบกับเรดดิ้ง เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2007 แต่นักเตะหนุ่มต้องทนกับอาการบาดเจ็บถึง 9 เดือน  หลังจากที่ต้องเข้ารับการผ่าตัดกล้ามเนื้อช่วงสะโพก จึงทำเขาพลาดการลงสนามตลอดทั้งปี
เมื่อเขากลับมาฟิตเต็มร้อย ความเด็ดเดี่ยวของเสเตอร์ริดจ์ก็กลับมาฉายแววอีกครั้ง เขาทำประตูแรกในฐานะนักฟุตบอลอาชีพเมื่อเดือนมกราคม 2008 และอีก 3 วันต่อมาเขาทำประตูได้อีก เมื่อเขาได้ลงเล่นอย่างเต็มตัวในนัดที่พบกับดาร์บี้
เขาจบฤดูกาล 2007-08 อย่างสวยงามแม้จะอยู่ในระดับเยาวชน เมื่อเขาเป็นดาวซัลโวสูงสุด และทีมแมนเชสเตอร์ ซิตี้ก็สามารถคว้าแชมป์เอฟเอ ระดับเยาวชนได้เป็นผลสำเร็จ
ฤดูกาลต่อมาสเตอร์ริดจ์ได้ขึ้นมาเล่นในทีมชุดใหญ่ของแมนเชสเตอร์ ซิตี้ โดยลงเล่นไป 16 นัด ยิงได้ถึง 4 ประตู และเป็นคนส่งลูกสวยๆ เพื่อทำประตูอีก 3 ประตู
อย่างไรก็ตาม แชมป์เอฟเอคัพนั้นเขาถือเป็นเกียรติยศสุดท้ายในฐานะนักเตะแมนเชสเตอร์ ซิตี้ เพราะหมดสัญญากับทีมในเดือนกรกฎาคม 2009 นักเตะวัยวัย 19 ปี รายนี้จึงย้ายไปร่วมทีมเชลซี
สเตอร์ริดจ์สร้างความประทับใจตั้งแต่ช่วงก่อนเปิดฤดูกาล โดยลงประเดิมสนามให้กับทีมของคาร์โล อันเชล็อตติ ในนัดพบกับทีมซันเดอร์แลนด์ในเดือนสิงหาคม 2009 และลงเล่นในลีกครั้งแรกในนัดกับโบลตันที่แสตมฟอร์ด บริดจ์ในลีกคัพ
สำหรับฤดูกาลแรกของเขากับทีมเชลซี สเตอร์ริดจ์กลายเป็นดาวซัลโวสูงสุดในถ้วยเอฟเอคัพ ด้วยการยิงถึง 4 ประตู โดยทีมจากลอนดอนสามารถคว้าดับเบิลแชมป์ด้วยการเอาชนะปอร์ตสมัธที่เวมบลีย์ 1-0
ในฤดูกาล 2010-11 สเตอร์ริดจ์สัมผัสเกมแชมเปียนส์ลีกเป็นครั้งแรกในนัดที่พบกับทีมเอมเอสเค ซิลินา จากสโลวาเกีย เขาทำประตูได้ถึง 4 ประตูใน 21 เกม อย่างไรก็ตาม ในวันสุดท้ายของช่วงตลาดซื้อ-ขายเดือนมกราคม 2011 สเตอร์ริดจ์ได้ย้ายไปร่วมทีมกับโบลตันด้วยสัญญายืมตัว
สเตอร์ริดจ์ได้ฉายแววที่รีบอก สเตเดียม เขายิงประตูในนัดประเดิมสนามให้ทีมของโอเวน คอยล์ โดยทำสถิติในการเล่นให้กับทีมโบลตันด้วยการยิง 8 ประตูใน 12 นัด รวมถึงหนึ่งประตูที่ยิงอาร์เซนอลได้ด้วย
เมื่อเขากลับมายังทีมเชลซี อันเดร วิลลาส โบอาส กุนซือคนใหม่ ได้มอบหมายให้สเตอร์ริดจ์ลงเล่นในตำแหน่งปีก โดยให้ตัดเกมเข้าใน และทำประตูจากทางกราบขวา
สเตอร์ริดจ์มีชื่อเป็นตัวสำรองทั้งเกมเอฟเอ คัพ และแชมเปียนส์ ลีกรอบชิงชนะเลิศ ในยุคที่โรแบร์โต้ เดอ มัตเตโอ เข้ามาทำหน้าที่แทนโบอาส และจบฤดูกาล 2011-12 ด้วยสถิติการทำประตูทั้งหมด 13 ประตู
แต่เวลาของเขากับทีมเชลซีเริ่มนับถอยหลังลง เมื่อเบรนแดน ร็อดเจอร์สต้องการคว้าตัวสเตอร์ริดจ์มายังเมอร์ซีย์ไซด์ โดยบรรลุข้อตกลงย้ายทีมเป็นผลสำเร็จในช่วงเปิดตลาดซื้อ-ขาย เดือนมกราคม ปี 2013
บางทีอาจจะไม่มีใครคาดคิดว่า การย้ายทีมของเข้าจะส่งผลให้ทีมถึงเพียงนี้ เมื่อเขาใช้เวลาเพียงแค่ 7 นาทีในการทำประตูในนัดประเดิมสนามแมนสฟิลด์ในศึกเอฟเอ คัพ เมื่อวันที่ 6 มกราคม
และหนึ่งสัปดาห์ต่อมา เขาก็สามารถทำประตูได้ที่สนามโอลด์ แทรฟฟอร์ด แม้จะลงเล่นเป็นตัวสำรอง และอรกหนึ่งประตูในนัดรับการมาเยือนของทีมนอริช สเตอร์ริดจ์ กลายเป็นนักเตะลิเวอร์พูลคนแรกในรอบ 4 ปีของสโมสร ที่ทำประตูได้ 3 ประตู จาก 3 เกมแรกที่ลงเล่น

 

 


 



 



 

 ท่าดีใจของ แดเนียล สเตอร์ริดจ์